เทคนิคการถ่ายภาพน้ำตก

การถ่ายภาพน้ำตกให้สายน้ำที่ไหลลงมาดูนุ่มนวลเป็นเส้นหรือจะถ่ายภาพให้สายน้ำที่ไหลลงมามีลักษณะของการฟุ้งกระจายน้ำเป็นเม็ด ๆ ลอยขึ้นมา  มีเทคนิควิธีง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากครับ

อุปกรณ์ที่จำเป็น คือขาตั้งกล้อง ควรเลือกใช้ขาตั้งกล้องคุณภาพดีและแข็งแรง อย่าถือกล้องถ่ายภาพด้วยมือเปล่า ในกรณีที่ท่านใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเพราะภาพถ่ายที่ได้จะไหวและเบลอ นอกจากคุณจะใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงในกรณีที่ต้องการภาพถ่ายของน้ำฟุ้งกระจายเป็นเม็ด แต่วิธีการถ่ายภาพที่ดีที่สุดไม่ว่าท่านจะใช้ความเร็วชัตเตอร์เท่าไรให้ใช้ขาตั้งกล้องเพราะจะให้เราได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพดีกว่าไม่ใช้ขาตั้งกล้องและควรระมัดระวังเมื่อติดตั้งกล้องไว้บนขาตั้ง ต้องกางขาตั้งและวางบนพื้นให้มั่นคง เพราะถ้ากางขาและตั้งไว้ไม่มั่นคง อาจทำให้ขาตั้งกล้องล้มทำให้อุปกรณ์กล้องถ่ายภาพได้รับความเสียหายได้

ถ้าเราต้องการจะถ่ายภาพน้ำตกให้สายน้ำที่ไหลลงมาดูนุ่มนวลชวนฝัน ลองทำตามวิธีนี้ดู

ให้ใช้สปีดชัตเตอร์ช้าๆ (ตัวเลขน้อย) ส่วนจะใช้ความเร็วชัตเตอร์เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความเร็วของกระแสน้ำ, สภาพแสง และความพอใจของคุณ ลองเลือกใช้ขนาดความเร็วชัตเตอร์หลาย ๆ ระดับ จะได้ภาพถ่ายของสายน้ำที่แตกต่างกันไปครับ

แต่ถ้าเราต้องการจะถ่ายภาพน้ำตกให้สายน้ำที่ไหลลงมาดูละอองน้ำเป็นเม็ดกระจายลองทำตามวิธีนี้ดู

ให้ใช้สปีดชัตเตอร์เร็ว ๆ (ตัวเลขมาก) จะใช้ความเร็วชัตเตอร์มากเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับความเร็วของกระแสน้ำ, สภาพแสง และความพอใจของคุณ เช่นเดียวกัน ลองเลือกใช้ขนาดความเร็ว         ชัตเตอร์หลาย ๆ ระดับ จะได้ภาพถ่ายของน้ำที่ฟุ้งกระจายเป็นเม็ด ๆ ที่แตกต่างกันไปครับ 

 
   ควรเดินสำรวจหามุมภาพให้ทั่วเสียก่อน แล้วค่อยเตรียมตั้งกล้อง บางที อาจมีมุมภาพสวยกว่าที่คุณกำลังจะถ่ายก็เป็นได้ ลองหามุมถ่ายภาพที่มีสภาพแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านลงมาต่างกัน

  ปรับตั้งกล้องค่าการวัดแสง ควรถ่ายภาพให้อันเดอร์เล็กน้อยหรือในสภาพแสงพอดี ไม่ควรให้แสงโอเวอร์ เพราะจะทำให้รายละเอียดในส่วนของสายน้ำ สูญเสียไป

   ใช้ฟิลเตอร์เข้าช่วยในกรณีที่มีแสงมาก และสปีดชัตเตอร์ที่ได้ยังเร็วเกินไป ฟิลเตอร์ที่ช่วยลดปริมาณแสงให้น้อยลง อาจใช้ฟิลเตอร์ โพลาไรซ์ อาจช่วยลดปริมาณแสงได้ถึง 2 สต็อป หรือใช้ฟิลเตอร์ ND (Neutral Density) ซึ่งมีหลายระดับของความเข้ม ให้ดูจำนวนตัวเลขที่ระบุไว้ที่ฟิลเตอร์ เช่น  4 , 8 หรือ 12  ยิ่งตัวเลขมากก็ยิ่งลดปริมาณแสงได้มาก จะช่วยให้คุณถ่ายภาพน้ำตกในบริเวณที่มีปริมาณแสงส่องสว่างเป็นจำนวนมากให้ได้ภาพถ่ายที่มีแสงสว่างพอดี ไม่โอเวอร์ มากเกินไปและยังได้ขนาดของความเร็วชัตเตอร์ที่เราต้องการด้วย

       การที่เราจะไปถ่ายภาพน้ำตกแห่งใดก็ตาม เราควรตรวจสอบสภาพน้ำและปริมาณน้ำตกก่อนที่จะเดินทางไป ถ้าอยู่ในระยะเวลาของฤดูร้อนจะมีปริมาณน้ำน้อยหรือน้ำไม่ไหล(น้ำแห้งขอด) อย่างนี้ก็ไม่ควรไป ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมากแต่ต้องระมัดระวังน้ำป่าที่ไหลลงมาด้วย เพราะโดยธรรมชาตินั้นน้ำป่ามักจะมาเร็วและแรง ให้สังเกต ถ้าน้ำที่ไหลมานั้นเปลี่ยนเป็นสีขุ่นหรือสีแดงๆ ให้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วยเพราะนั่นคือการเตือนภัยขั้นต้นให้เราทราบ  และควรระวังเวลาเดินไปถ่ายภาพในบริเวณน้ำตกทุกแห่ง เพราะโดยธรรมชาติในบริเวณพื้นที่น้ำตกเหล่านี้จะมีตะไคร่น้ำจับอยู่บนพื้นหรือโขดหินที่เราเดินทำให้"ลื่นล้ม"  ทำให้ได้รับอันตรายเจ็บทั้งตัว เสียทั้งกล้องไม่คุ้มกับการมาถ่ายภาพน้ำตก

Advertising Zone    Close